Banner Appbeside

Samsung Wallet แอพพลิเคชั่นกระเป๋าตังของยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้

(Credit: Phonearena)

ในอนาคตอันใกล้ของทุกคนก็อาจได้ใช้ Samsung Wallet ผ่านสมาร์ทโฟนของพวกเขากันแล้ว

เพราะว่าก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็เคยใช้แอพพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Pay and Pass ที่กลายร่างมาเป็นกระเป๋าตังในที่สุด

โดยประโยชน์ของมันก็คือ การให้ผู้ใช้ Galaxy ทั้งหลายเอาข้อมูลดิจิทัลมารวมกันในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน

หรือบัตรจ่ายเงินต่าง ๆ เช่นเดียวกับพาสเวิร์ดต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

โดยปัจจุบันที่คนมักจะต้องพกบัตรมากมายเอาไว้ในกระเป๋าเงินก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว หากมีแอพพลิเคชั่นตัวนี้

(Credit: Phonearena)

การร่วมงานในประเทศเกาหลีใต้

ใน Samsung Wallet จะไม่ได้มีเพียงแค่การเก็บบัตรต่าง ๆ ได้เท่านั้น เพราะหากผู้ใช้มีกุญแจแบบสมาร์ทคีย์

ก็ยังสามารถนำไปใช้เปิดบ้านของตัวเองได้อีกด้วย เช่นเดียวกับการเก็บเงินแบบคริปโตที่กำลังใช้กันมากขึ้นในขณะนี้

ส่วน Samsung ยังมีการเล่นใหญ่ เพราะไปจับมือกับทางด้าน Korean Air ที่ใช้บอร์ดดิ้งพาสภายในแอพพลิเคชั่น

ได้เลยแบบไม่ต้องไปเอาบัตรที่เคาท์เตอร์ แถมในอนาคนก็จะเริ่มเก็บบัตรที่เกี่ยวกับรัฐมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชนหรือจะเป็นใบขับขี่ รวมถึงบัตรนักเรียนเช่นกัน

(Credit: Phonearena)

ความปลอดภัยที่น่าไว้ใจ

ใครที่กลัวว่า Samsung Wallet จะมีโอกาสถูกโจรกรรมไปก็ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยปกป้องกระเป๋าตังของทุกคน

ไม่ว่าจะเป็นการสแกนลายนิ้วมือ แถมมีระบบ Secure Element ที่จะเป็นการป้องกันอีกหนึ่งชั้นเลนทีเดียว

โดยปัจจุบันในประเทศเกาหลีใต้ก็มีการใช้งานร่วมกับรถยนต์เจ้าดังอย่าง BMW, Genesis หรือ Hyundai

ในบางรุ่นกันแล้ว แถมยังสตาร์ทเครื่องผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้จนเรียกว่าลืมกุญแจกันไปได้เลย ส่วนคนที่จะได้ใช้

แอพพลิเคชั่นนี้เป็นชุดแรกก็จะเป็นคนที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา

ส่วนหนึ่งที่ทาง Samsung Wallet เกิดขึ้นมาก็อาจเป็นเพราะว่า Apple Pay ก็เพิ่งจะทำฟีเจอร์ใหม่ลงแอพพลิเคชั่น

กระเป๋าตังของพวกเขาเองเหมือนกัน ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงด่วน ๆ จากฝั่งประเทศเกาหลีใต้

เนื่องจากยักษ์ใหญ่ทั้งสองก็แข่งขันกันมานานแล้ว แถมไม่มีทีท่าจะยอมกันเลยอีกด้วย

อย่างไรก็ตามแอพพลิเคชั่นของแอนดรอยด์ตัวนี้น่าจะเป็นที่นิยมมากกว่าตามผู้ใช้จริงนั่นเอง

Credit: PCMag

Author: CC